พลับพลึง
พลับพลึงเป็นไม้ล้มลุกที่ขึ้นเป็นกอ หัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นกลม ใบมีลักษณะแคบยาวเรียว อวบน้ำ ปลายใบแหลมและชี้ออกไปรอบต้น ดอกออกเป็นช่อมีประมาณ 12 – 40 ดอก กลีบดอกสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ปลายเกสรมีสีแดง พลับพลึงเป็นไม้เขตร้อน จึงเติบโตได้ดีในประเทศไทย
ประโยชน์ของพลับพลึง
- ใบ รักษาฝีได้ทุกชนิด แก้ปวดเมื่อยตามข้อ เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำดำเขียวและใช้อยู่ไฟหลังคลอดได้ ส่วนในประเทศอินเดียใช้ใบพลับพลึงเป็นยาระบาย
- ต้น ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง เป็นยาระบายและใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะและระบบน้ำดี
- เมล็ด ใช้เป็นยาบำรุง ขับประจำเดือนและขับปัสสาวะ
ถึงแม้ว่าพลับพลึงจะมีประโยชน์ทางยาอยู่เยอะ แต่ก็ใช้ได้แค่ภายนอกโดยการทาเท่านั้น ไม่ควรนำพลับพลึงมากินหรือใช้ภายในเด็ดขาด เพราะพลับพลึงเป็นพรรณไม้ชนิดหนึ่งที่มีพิษนั่นเอง
การปลูกพลับพลึง
พลับพลึงมีรากหยั่งลึกฉะนั้นควรปลูกลงดินและเลือกทำเลที่ไม่มีน้ำขัง ชอบแสงแดด หากมีร่มเงาก็จะทำให้พลับพลึงโตเร็ว หากจะปลูกในกระถางควรเลือกปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่ การใส่ปุ๋ยก็ให้ใช้ปุ๋ยคอกสลับกับปุ๋ยเคมี
บานชื่น
บานชื่นเป็นพรรณไม้อีกชนิดหนึ่งที่คนนิยมปลูกกันมาก เนื่องจากดูแลง่าย ดอกมีสีสันสวยงามและยังให้ดอกเร็วด้วย ลำต้นมีขนสูง 2 ฟุต ปลายใบแหลม ผิวใบมีขนหยาบ ดอกออกเป็นช่อกระจุกมีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ไม่มีกลิ่น ดอกมีหลายสีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย
ประโยชน์ของบานชื่น
- นำดอกบานชื่นมาตากแห้ง แล้วบดเป็นผงทำชาดื่มได้
- นำดอกบานชื่นมาบดเป็นผง ใช้เป็นสีผสมอาหารได้
- นำดอกบานชื่นมาสกัดเป็นสีย้อมผ้าได้
- นำดอกบานชื่นมาบดละลายน้ำ ใช้เป็นสีระบายภาพได้
การปลูกบานชื่น
บานชื่นเติบโตได้ดีในที่แจ้ง ชอบแสงแดด อย่างน้อยก็ให้ได้รับแสงแดดโดยตรงวันละ 6 ชั่วโมง ปลูกได้ทุกฤดู ชอบดินร่วนปนทราย ไม่ชอบดินแฉะที่มีน้ำขัง ปลูกได้ทั้งในแปลงและในกระถาง แต่ส่วนมากนิยมปลูกในกระถางกันมากกว่าเพราะบานชื่นเป็นไม้ดอกที่โตเร็ว ให้ดอกใหญ่ ลำต้นไม่สูงมากนักแต่มีอายุสั้น การรดน้ำก็ให้รดน้ำวันละครั้งพอ
บานบุรี
บานบุรีเป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ใบเลี้ยงเดี่ยว แผ่นใบหนาเป็นมัน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอกมี 5 กลีบ สีสันสวยงาม มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ดอกทั้งสองชนิดออกตลอดปี ผลมีรูปกลม เมื่อแก่แตกออก เมล็ดรูปไข่ จำนวนมาก
ประโยชน์ของบานบุรี
- นำดอกบานบุรีสีเหลืองและสีม่วงมาใช้ย้อมผ้าได้
- นำดอกบานบุรีมาบดเป็นผง ใช้เป็นสีสำหรับทำขนมได้
- นำดอกบานบุรีมาคั้นเป็นน้ำดื่มหรือตากให้แห้งก่อนใช้ชงเป็นชาดื่มได้
- ใบบานบุรีช่วยแก้อาการจุกเสียดได้
- ใบบานบุรีใช้เป็นยาถ่าย ยาระบายได้
การปลูกบานบุรี
บานบุรีเป็นไม้ประดับที่ปลูกง่าย ชอบกลางแจ้ง เติบโตได้ในดินทุกสภาพ ไม่ค่อยมีโรคมารบกวน ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือการตอนกิ่ง หรือจะปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ก็ได้แต่ต้องทำค้างเล็กๆให้เลื้อยไต่ได้ ต้องการน้ำปานกลางและควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องตลอดทั้งวัน
ยี่หุบ
ยี่หุบเป็นดอกไม้ประดับที่มีต้นไม่สูงใหญ่มากนัก ลำต้นมีสีเขียวตลอดปี ใบเลี้ยงเดี่ยว ใบมีรูปทรงรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกมีสีขาวขนาดใหญ่ สวยงาม กลีบรองดอกมี 3 กลีบ มีสีเขียวอ่อนแกมขาว หนาและแข็ง ดอกมีกลิ่นหอมในช่วงเวลาพลบค่ำถึงสายๆ ดอกทยอยออกตลอดทั้งปีและบานในช่วงเวลาสั้นๆแล้วจะหุบ จึงได้ชื่อว่ายี่หุบ
ประโยชน์ของยี่หุบ
- นำดอกยี่หุบมาดมเพื่อให้ผ่อนคลายได้
- นำดอกมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อกระตุ้นระบบประสาทและการไหลเวียนของเลือดได้
- นำดอกมาสกัดเป็นน้ำมันทานวดร่างกายเพื่อแก้อาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอกได้
การปลูกยี่หุบ
ยี่หุบชอบอากาศที่เย็นพอเหมาะ ไม่หนาวเย็นจนเกินไป ต้องการอากาศที่มีความชื้นมาก เติบโตได้ดีในที่ร่ม มีแสงแดดบ้าง ไม่ชอบแสงแดดจัด หากปลูกยี่หุบในพื้นที่เย็นจะทำให้ออกดอกใหญ่และมากกว่าพื้นที่ร้อน การปลูกยี่หุบสามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ด ตอนกิ่งและการปักชำ หากปลูกในกระถางควรวางไว้ในที่ร่มและรดน้ำอย่างน้อย 2 วันต่อครั้ง
สาวน้อยประแป้ง
สาวน้อยประแป้งเป็นไม้ประดับต้น ใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นตั้งตรง ใบมีขนาดใหญ่ ปลายใบเรียวแหลม พื้นใบมีสีเขียว ประด้วยลายด่างสีขาว นิยมปลูกในกระถางเพื่อใช้ประดับอาคาร ดูภายนอกสวยงามแต่จริงๆแล้วสาวน้อยประแป้งเป็นพืชที่มีพิษถึงตายได้หากรับประทานเข้าไปและหากสัมผัสถูกผิวหนังก็จะทำให้เกิดอาการคันด้วย
ประโยชน์ของสาวน้อยประแป้ง
- น้ำยางจากลำต้น ใบ ดอกของสาวน้อยประแป้งใช้เป็นยาพิษเบื่อสัตว์ได้ แต่ต้องระวังหากคนกินจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
- คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าสาวน้อยประแป้งเป็นพรรณไม้ที่ให้โชคลาภ คุ้มครองภัยจากอันตรายต่างๆและทำให้ผู้ปลูกมีอายุยืน
\
สาวน้อยประแป้งขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด แยกหน่อและปักชำ แต่ที่นิยมมากที่สุดคือการขุดแยกหน่อจากต้นแม่มาปลูก เป็นไม้ปลูกที่ดูแลง่ายอีกชนิดหนึ่ง ชอบแสงแดดรำไร แต่หากโดนแสงแดดโดยตรงจะทำให้ใบไหม้ ปลูกในดินที่มีส่วนผสมของอินทรียวัตถุ ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ไม่ชอบพื้นที่แฉะหรือมีน้ำขัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น