ใครที่มีโครงการจะขายบ้าน ขายที่ดิน คงจะประสบพบเจอปัญหาที่ไม่ต่างกันมาก ยิ่งคนที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อนก็จะไม่รู้เลยว่าการขายบ้านมือสองและขายที่ดินมีขั้นตอนอย่างไร ทำอย่างไร และต้องขายที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ความไม่รู้เหล่านี้ก็จะส่งผลกระทบต่อมา คือ อาจจะขายไม่ออก หรือขายได้ช้ากว่ากำหนด เท่านั้นยังไม่พอหากไม่รู้เรื่องกฎหมายด้วยแล้ว มีสิทธิ์ทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว
        ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการขายบ้านหรือที่ดิน เป็นธุรกิจที่ผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้กันอยู่สักหน่อยเพื่อไม่ให้การขายนั้นราบรื่น แต่ถ้าหากไม่มีความรู้เลย หลายท่านก็เลี่ยงที่จะขายด้วยตัวเองและหันไปใช้บริการ “นายหน้า” หรือ “โบรกเกอร์” เพื่อดำเนินการขายและเป็นธุระจัดการให้ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างไรก็ตามก็มีเสียงที่คอยย้ำเตือนอยู่เสมอว่าการขายบ้านหรือขายที่ดินผ่านนายหน้าต้องใช้ความรอบคอบในการเลือกนายหน้า เพราะปัญหามิจฉาชีพมีมาก หานายหน้าที่ไว้ใจได้ยาก
“นายหน้า” หมายถึง คนกลางหรือตัวแทนในการติดต่อประสานธุระหรือดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย ให้มีการทำสัญญากัน ปัจจุบัน นายหน้ามีทั้งรูปแบบที่เป็นรายบุคคลและรูปแบบบริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีนายหน้าอิสระ จะเป็นใครก็ได้มาทำหน้าที่สื่อกลางติดต่อประสานงานให้ เนื่องจากงานประเภทนี้มักจะมีค่านายหน้าเป็นผลตอบแทนหากการติดต่อซื้อขายสำเร็จ ทำให้คนจำนวนมากเริ่มสนใจเป็นนายหน้ากันเป็นจำนวนมาก ดังจะเห็นได้ว่ามีนายหน้าทั้งที่เป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมเกิดขึ้นมากมาย จึงตกมาเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อและผู้ขายที่จะต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกใช้บริการนายหน้าหรือโบรกเกอร์ขายอสังหาริมทรัพย์

ข้อดี-ข้อเสีย การขายบ้านและทีดินผ่านนายหน้า

ข้อดี
  1. มั่นใจในการขายได้ เพราะนายหน้าทำกันเป็นอาชีพ ก็ต้องมีประสบการณ์ ความชำนาญ และทักษะในการขาย เข้าใจรายละเอียดต่างๆ ของการขาย จึงมั่นใจได้แน่นอนว่าหากนำบ้านเข้าสู่การขายของนายหน้าแล้วล่ะก็ บ้านของคุณจะต้องขายได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเจอนายหน้าหน้าใหม่หรือไร้ประสิทธิภาพจริง การขายอาจไม่ประสบความสำเร็จได้ แต่คุณก็จะไม่เสียค่านายหน้าใดๆ เพราะถือว่าไม่เป็นไปตามสัญญานั่นเอง
  2. จ่ายแค่ครั้งเดียว นายหน้าดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสรรพตามระยะสัญญาที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการคุยกับผู้ซื้อ การเดินทางไปดูบ้าน ตีราคาบ้าน ฯลฯ นายหน้าจะคอยรายงานความคืบหน้ามาให้ เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย หน้าที่สำคัญที่สุดของเรา คือ การจ่ายค่าจ้างนายหน้าเมื่องานสำเร็จเท่านั้น
  3. สะดวกและประหยัดเวลา ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้ว นายหน้าเป็นผู้จัดการตั้งแต่เริ่มกระบวนการขายจนจบกระบวนการขาย ซึ่งเต็มไปด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนั้นเมื่อเราไม่ต้องไปลงมือทำธุรกรรมด้วยตัวเอง ก็จะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
  4. หมดปัญหาเรื่องการทำสัญญาและขั้นตอนต่างๆ ที่ละเอียดยิบย่อย นายหน้ามีความรู้และความเข้าใจเรื่องสัญญาการขาย ขั้นตอนการขายเป็นอย่างดี มีประสบการณ์การขายมาอย่างช่ำชองแน่นอน ดังนั้นการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน นายหน้าสามารถให้คำแนะนำและเป็นตัวแทนเราในการเจรจาต่อรองได้
  5. ไม่ต้องประชาสัมพันธ์เอง นายหน้าแต่ละรายจะรู้ช่องทางการขายเป็นอย่างดี และมีสื่อในการประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต การติดป้ายประกาศ หรือช่องทางอื่นๆ เพราะพวกเขาก็ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้ขายบ้านออกเช่นกัน เพราะฉะนั้นการซื้อขายบ้านหรือที่ดินผ่านนายหน้า จึงช่วยลดเวลาและรายจ่ายด้านการโฆษณาได้เยอะทีเดียว
  6.  มีมืออาชีพที่ช่วยเจรจาต่อรอง ประสบการณ์การขายที่มากกว่าย่อมรู้พฤติกรรมของลูกค้าเป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์ได้แม้จะเป็นลูกค้าใหม่ รวมถึงมีวิธีโน้มน้าวใจในฐานะผู้ขาย ดังนั้นถ้าหากผู้ซื้อต่อรองก็สามารถมั่นใจได้ว่านายหน้าสามารถรับมือได้
  7. เป็นที่ปรึกษาเรื่องต่างๆ ให้เราได้ ไม่เฉพาะเรื่องการขายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้อมูลเรื่องบ้าน คำแนะนำการตกแต่งบ้าน การดูแลรักษาบ้าน การทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับเรื่องบ้าน เพราะนายหน้าจำเป็นต้องมีความรู้เหล่านี้พอสมควร นายหน้าที่ดีก็จะให้คำปรึกษาเราได้
ข้อเสีย
  1. เสียค่านายหน้า นายหน้าเป็นตัวแทนในการเจรจาขายบ้านให้เรากับผู้ซื้อ ดังนั้นในสัญญาจึงระบุไว้ว่าหากนายหน้าสามารถขายบ้านได้สำเร็จเราจึงต้องจ่ายค่าจ้างให้กับนายหน้าด้วย ปัจจุบันค่านายหน้าอยู่ที่ 3% ของราคาขาย หมายความว่ายิ่งราคาสูงเท่าไหร่ก็ต้องมีค่านายหน้าสูงเท่านั้น เช่น ขายบ้านราคา 800,000 บาท จะเสียค่านายหน้า 24,000 บาทแต่ถ้าราคา 3 ล้านบาท ก็จะต้องเสียค่านายหน้า 90,000 บาท เป็นต้น ดังนั้นผู้ขายที่เลือกวิธีขายแบบผ่านนายหน้าก็ต้องยอมรับกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย
  2. ผู้ซื้อไม่ไว้ใจนายหน้า ถือเป็นดาบสองคม ในแง่หนึ่งนายหน้าก็ช่วยให้การขายดำเนินไปได้ด้วยดี แต่สำหรับบางคนการที่ไม่ได้ซื้อขายกับผู้ขายบ้านโดยตรง ก็อาจเกิดความไม่ไว้ใจขึ้นได้ เช่น กลัวว่านายหน้าจะโกง เงินจะไม่ถึงมือผู้ขาย กลัวว่านายหน้าจะแอบงุบงิบ หรือกลัวว่านายหน้าจะแนะนำบ้านที่ไม่ดีให้เป็นต้น
  3. ปัญหาการโกงจากนายหน้าที่ไม่ดี เป็นข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดของคนที่ต้องการขายบ้านผ่านนายหน้า เพราะในปัจจุบันนายหน้าเกิดขึ้นมากมาย ตามข่าวหรือเว็บไซต์ก็มีเผยแพร่เกี่ยวกับกลโกงของนายหน้าจำนวนมาก ดังนั้นผู้ขายที่จะใช้บริการผ่านนายหน้า ควรทำการศึกษาบริษัทที่จะใช้บริการด้วย เมื่อได้นายหน้ามาแล้วก็ควรสอบถามกับเจ้าหน้าที่อื่นๆ หรือทีมงานคนอื่นๆ ว่านายหน้าคนนี้ไว้ใจได้หรือไม่ ทำงานเป็นอยางไร เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจ นอกจากนี้ก็ควรก็ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเลือกนายหน้า วิธีรับมือนายหน้า หรือศึกษาขั้นตอนการซื้อขายบ้านไว้ล่วงหน้า หากนายหน้าตุกติกจะได้รู้ตัวทัน

ข้อดี-ข้อเสีย การขายบ้านและทีดินผ่านนายหน้า


      ใครที่มีโครงการจะขายบ้าน ขายที่ดิน คงจะประสบพบเจอปัญหาที่ไม่ต่างกันมาก ยิ่งคนที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อนก็จะไม่รู้เลยว่าการขายบ้านมือสองและขายที่ดินมีขั้นตอนอย่างไร ทำอย่างไร และต้องขายที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ความไม่รู้เหล่านี้ก็จะส่งผลกระทบต่อมา คือ อาจจะขายไม่ออก หรือขายได้ช้ากว่ากำหนด เท่านั้นยังไม่พอหากไม่รู้เรื่องกฎหมายด้วยแล้ว มีสิทธิ์ทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว
        ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการขายบ้านหรือที่ดิน เป็นธุรกิจที่ผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้กันอยู่สักหน่อยเพื่อไม่ให้การขายนั้นราบรื่น แต่ถ้าหากไม่มีความรู้เลย หลายท่านก็เลี่ยงที่จะขายด้วยตัวเองและหันไปใช้บริการ “นายหน้า” หรือ “โบรกเกอร์” เพื่อดำเนินการขายและเป็นธุระจัดการให้ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างไรก็ตามก็มีเสียงที่คอยย้ำเตือนอยู่เสมอว่าการขายบ้านหรือขายที่ดินผ่านนายหน้าต้องใช้ความรอบคอบในการเลือกนายหน้า เพราะปัญหามิจฉาชีพมีมาก หานายหน้าที่ไว้ใจได้ยาก
“นายหน้า” หมายถึง คนกลางหรือตัวแทนในการติดต่อประสานธุระหรือดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย ให้มีการทำสัญญากัน ปัจจุบัน นายหน้ามีทั้งรูปแบบที่เป็นรายบุคคลและรูปแบบบริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีนายหน้าอิสระ จะเป็นใครก็ได้มาทำหน้าที่สื่อกลางติดต่อประสานงานให้ เนื่องจากงานประเภทนี้มักจะมีค่านายหน้าเป็นผลตอบแทนหากการติดต่อซื้อขายสำเร็จ ทำให้คนจำนวนมากเริ่มสนใจเป็นนายหน้ากันเป็นจำนวนมาก ดังจะเห็นได้ว่ามีนายหน้าทั้งที่เป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมเกิดขึ้นมากมาย จึงตกมาเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อและผู้ขายที่จะต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกใช้บริการนายหน้าหรือโบรกเกอร์ขายอสังหาริมทรัพย์

ข้อดี-ข้อเสีย การขายบ้านและทีดินผ่านนายหน้า

ข้อดี
  1. มั่นใจในการขายได้ เพราะนายหน้าทำกันเป็นอาชีพ ก็ต้องมีประสบการณ์ ความชำนาญ และทักษะในการขาย เข้าใจรายละเอียดต่างๆ ของการขาย จึงมั่นใจได้แน่นอนว่าหากนำบ้านเข้าสู่การขายของนายหน้าแล้วล่ะก็ บ้านของคุณจะต้องขายได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเจอนายหน้าหน้าใหม่หรือไร้ประสิทธิภาพจริง การขายอาจไม่ประสบความสำเร็จได้ แต่คุณก็จะไม่เสียค่านายหน้าใดๆ เพราะถือว่าไม่เป็นไปตามสัญญานั่นเอง
  2. จ่ายแค่ครั้งเดียว นายหน้าดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสรรพตามระยะสัญญาที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการคุยกับผู้ซื้อ การเดินทางไปดูบ้าน ตีราคาบ้าน ฯลฯ นายหน้าจะคอยรายงานความคืบหน้ามาให้ เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย หน้าที่สำคัญที่สุดของเรา คือ การจ่ายค่าจ้างนายหน้าเมื่องานสำเร็จเท่านั้น
  3. สะดวกและประหยัดเวลา ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้ว นายหน้าเป็นผู้จัดการตั้งแต่เริ่มกระบวนการขายจนจบกระบวนการขาย ซึ่งเต็มไปด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนั้นเมื่อเราไม่ต้องไปลงมือทำธุรกรรมด้วยตัวเอง ก็จะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
  4. หมดปัญหาเรื่องการทำสัญญาและขั้นตอนต่างๆ ที่ละเอียดยิบย่อย นายหน้ามีความรู้และความเข้าใจเรื่องสัญญาการขาย ขั้นตอนการขายเป็นอย่างดี มีประสบการณ์การขายมาอย่างช่ำชองแน่นอน ดังนั้นการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน นายหน้าสามารถให้คำแนะนำและเป็นตัวแทนเราในการเจรจาต่อรองได้
  5. ไม่ต้องประชาสัมพันธ์เอง นายหน้าแต่ละรายจะรู้ช่องทางการขายเป็นอย่างดี และมีสื่อในการประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต การติดป้ายประกาศ หรือช่องทางอื่นๆ เพราะพวกเขาก็ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้ขายบ้านออกเช่นกัน เพราะฉะนั้นการซื้อขายบ้านหรือที่ดินผ่านนายหน้า จึงช่วยลดเวลาและรายจ่ายด้านการโฆษณาได้เยอะทีเดียว
  6.  มีมืออาชีพที่ช่วยเจรจาต่อรอง ประสบการณ์การขายที่มากกว่าย่อมรู้พฤติกรรมของลูกค้าเป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์ได้แม้จะเป็นลูกค้าใหม่ รวมถึงมีวิธีโน้มน้าวใจในฐานะผู้ขาย ดังนั้นถ้าหากผู้ซื้อต่อรองก็สามารถมั่นใจได้ว่านายหน้าสามารถรับมือได้
  7. เป็นที่ปรึกษาเรื่องต่างๆ ให้เราได้ ไม่เฉพาะเรื่องการขายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้อมูลเรื่องบ้าน คำแนะนำการตกแต่งบ้าน การดูแลรักษาบ้าน การทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับเรื่องบ้าน เพราะนายหน้าจำเป็นต้องมีความรู้เหล่านี้พอสมควร นายหน้าที่ดีก็จะให้คำปรึกษาเราได้
ข้อเสีย
  1. เสียค่านายหน้า นายหน้าเป็นตัวแทนในการเจรจาขายบ้านให้เรากับผู้ซื้อ ดังนั้นในสัญญาจึงระบุไว้ว่าหากนายหน้าสามารถขายบ้านได้สำเร็จเราจึงต้องจ่ายค่าจ้างให้กับนายหน้าด้วย ปัจจุบันค่านายหน้าอยู่ที่ 3% ของราคาขาย หมายความว่ายิ่งราคาสูงเท่าไหร่ก็ต้องมีค่านายหน้าสูงเท่านั้น เช่น ขายบ้านราคา 800,000 บาท จะเสียค่านายหน้า 24,000 บาทแต่ถ้าราคา 3 ล้านบาท ก็จะต้องเสียค่านายหน้า 90,000 บาท เป็นต้น ดังนั้นผู้ขายที่เลือกวิธีขายแบบผ่านนายหน้าก็ต้องยอมรับกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย
  2. ผู้ซื้อไม่ไว้ใจนายหน้า ถือเป็นดาบสองคม ในแง่หนึ่งนายหน้าก็ช่วยให้การขายดำเนินไปได้ด้วยดี แต่สำหรับบางคนการที่ไม่ได้ซื้อขายกับผู้ขายบ้านโดยตรง ก็อาจเกิดความไม่ไว้ใจขึ้นได้ เช่น กลัวว่านายหน้าจะโกง เงินจะไม่ถึงมือผู้ขาย กลัวว่านายหน้าจะแอบงุบงิบ หรือกลัวว่านายหน้าจะแนะนำบ้านที่ไม่ดีให้เป็นต้น
  3. ปัญหาการโกงจากนายหน้าที่ไม่ดี เป็นข้อกังวลที่ใหญ่ที่สุดของคนที่ต้องการขายบ้านผ่านนายหน้า เพราะในปัจจุบันนายหน้าเกิดขึ้นมากมาย ตามข่าวหรือเว็บไซต์ก็มีเผยแพร่เกี่ยวกับกลโกงของนายหน้าจำนวนมาก ดังนั้นผู้ขายที่จะใช้บริการผ่านนายหน้า ควรทำการศึกษาบริษัทที่จะใช้บริการด้วย เมื่อได้นายหน้ามาแล้วก็ควรสอบถามกับเจ้าหน้าที่อื่นๆ หรือทีมงานคนอื่นๆ ว่านายหน้าคนนี้ไว้ใจได้หรือไม่ ทำงานเป็นอยางไร เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจ นอกจากนี้ก็ควรก็ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเลือกนายหน้า วิธีรับมือนายหน้า หรือศึกษาขั้นตอนการซื้อขายบ้านไว้ล่วงหน้า หากนายหน้าตุกติกจะได้รู้ตัวทัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น